Tuesday, March 29, 2011

ฮวงจุ้ยดีช่วยเรียกเงิน

หมั่นจัดข้าวของให้เป็นระเบียบ อย่าปล่อยให้ของกองสุมอยู่บนโต๊ะ อะไรที่มันเก่าแล้ว อย่างเช่นบิลค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ ตั้งแต่เมื่อ 5 ปีที่แล้วก็จับลงถังไปซะ แล้วแยกแยะเอกสารเป็นหมวดหมู้ หากล่องหาลิ้นชักอะไรก็ได้ มาใส่บิลทวงหนี้ต่าง ๆ แยกเป็นประเภทหรือแยกเป็น ใบทวงหนี้ กับใบเสร็จก็ได้



ถ้ากระเป๋าสตางค์เริ่มเก่าแล้วก็ควรเปลี่ยนใหม่ซะ อย่าใช้กระเป๋าที่มันเก่าและเริ่มมีรูแล้วเด็ดขาด ถ้าเป็นไปได้ กระเป๋าใบใหม่ควรเป็นสีแดงนะจ๊ะ เพราะเชื่อกันว่าสีแดงเป็นสีของความเจริญรุ่งเรือง ที่สำคัญเมื่อเปลี่ยนกระเป๋าใหม่แล้ว ก็ต้องจัดให้เป็นระเบียบด้วย และอย่ายัด ๆ ธนบัตรใส่กระเป๋าตังค์เด็ดขาด เพราะว่าเขาถือว่าการที่มีธนบัตรที่ยับยู่ยี่อยู่ในกระเป๋าตังค์นั้นไม่ดี



พยายามอยู่ใกล้ ๆ น้ำเข้าไว้ ไม่ได้หมายถึงให้คุณย้ายบ้านไปอยู่ริมแม่น้ำ หรือว่าให้ย้ายไปทำงานในห้องน้ำหรอกนะ เพียงแค่หาตู้ปลามาตั้งไว้ตรงทิศเหนือของบ้าน หรืออาจจะนำรูปภาพที่เกี่ยวกับน้ำ น้ำตก (ไม่ใช่น้ำตกซกเล็กนะคร๊าาา) หรือท้องทะเลมาแขวนหรือติดไว้ที่โต๊ะ



สำหรับใครที่คิดจะเอามาตั้งที่โต๊ะทำงานแนะนำให้เป็นรูปน้ำตกที่อยู่ท่ามกลางหมู่แมกไม้ด้วยนะคะ เพราะว่าสีเขียวนั้นสีต่อสายตาค่ะ อ่อ .... แนะนำอีกนิดว่าหากเป็นรูปเรือล่องลอยอยู่ในน้ำขอให้เลือกเป็นอันดับแรกเลยค่ะ เพราะว่ามันจะช่วยให้คุณมีโชคทางการเงินมากขึ้น



พยายามปรับปรุงซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ของบ้านอยู่เสมอ ตรงไหนที่ชำรุดก็รีบซ่อมซะ ส่วนไหนที่เสียหรือใช้การไม่ได้ก็ส่งซ่อมหรือทิ้งไปแล้วหาของใหม่มาแทน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเพดานมีรูรั่วต้องซ่อมทันที เพราะถือกันว่า เงินทองของคุณจะรั่วไหลออกไปตามรู/รอยที่รั่วนั้นได้ค่ะ



สีแห่งโชค สีแห่งโชคนั้นได้แก่สี แดง สีเขียว และสีม่วง ซึ่งจะช่วยเรียกพลังและเงินทองเข้ามาหาคุณได้ คุณอาจจะหาของแต่งบ้าน หรือของตกแต่งต่าง ๆ ที่มีสีดังกล่าวนี้มาประดับบ้าน หรืออาจจะหาต้นไม้มาสีเขียว ๆ มาวางประดับบ้าน หรือที่โต๊ะทำงานก็ได้ แต่ต้องดูแลรักษาอย่าให้มันเหี่ยวเฉาหรือตายไปนะคะ



เอาล่ะเป็นยังไงกันบ้างเอ่ย มีใครที่ทำตามแบบนี้แล้วบ้างค่ะ ถ้ายังไม่ได้ทำก็ลองทำตามดูนะคะ จริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่อย่างน้อย ๆ ทำตามไว้ก็ไม่เสียหายนี่หน่า แถมยังช่วยให้เราจัดการข้าวของต่าง ๆ ให้เป็นระเบียบได้อีกด้วย

Monday, March 28, 2011

ภาพตกแต่งห้องนอนสวยๆ

เหมาะสำหรับคนที่พักอยู่คอนโด เป็นห้อง All in one ใช้รับแขกและนอนในที่เดียวกัน ส่วนตัวแล้วชอบที่ผนังเป็นไม้(หรือวัสดุสีเหมือนไม้) ทำให้ดูเป็นธรรมชาติดีค่ะ

Saturday, March 26, 2011

ฮวงจุ้ย บ้านของคนเกิดปีต่าง ๆ

บ้านคนปีชวด (พ.ศ. 2527, 2515 และ 2503)
เพื่อความมั่งมีศรีสุข บ้านของคนปีชวด ควรมีเครื่องดนตรีอย่างน้อย 1 ชิ้น อยู่ในบ้าน เช่น ขลุ่ย เมาท์ออร์แกน เปียโน กีตาร์ ฯลฯ แม้จะเล่นไม่เป็น เพียงมีไว้ประดับบ้านก็ถือว่าถูกโฉลก นำโชคดีมาสู่ในบ้าน แต่ถ้าเป็นเครื่องดนตรีที่สมาชิกในบ้าสามารถเล่นได้จริงๆ หรือมีการเล่นร่วมดนตรีด้วยกันภายในครอบครัว เสียงดนตรีที่ดังขึ้นดุจดั่งเสียงสวรรค์ที่เรียกทรัพย์นับล้านเข้าสู่บ้านคนปีชวด

บ้านคนปีฉลู (พ.ศ. 2528, 2516 และ 2504)
เพื่อความมั่งคั่งร่ำรวย บ้านของคนปีฉลู ไม่ควรมีอะไรที่เป็นทรงกลม ยกเว้นโต๊ะอาหารที่เป็นโต๊ะกลมได้ นอกนั้นแล้วสิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้านควรเป็นเหลี่ยมเป็นมุมทั้งหมด ตัวอย่างเช่น นาฬิการทรง 8 เหลี่ยม อ่างบัวทรง 5 เหลี่ยม กระถางต้นไม้ทรง 4 เหลี่ยม รวมไปถึงลวดลายของเหล็กดัด วอลล์เปเปอร์ ก็ควรเป็นรูปทรงเหลี่ยม หลีกเลี่ยงรูปวงกลมและรูปโค้งมนต่างๆ

บ้านคนปีขาล (พ.ศ. 2529, 2517 และ 2505)
เพื่อความเจริญรุ่งเรือง เฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านของคนปีขาล ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะ เก้าอี้ ตู้ เตียง ควรมีขนาดใหญ่กว่าปกติ หน้าบ้านควรมีต้นไม้ใหญ่ หรือ สัญลักษณ์ที่ใหญ่โตโดดเด่น อาทิ มีประตูหน้าบ้านบานใหญ่ มีโอ่งน้ำขนาดใหญ่ มีบ่อน้ำขนาดใหญ่ เป็นต้น ในห้องรับแขกควรมีรูปภาพพระอาทิตย์ขึ้นประดับไว้ จะช่วยเพิ่มพลังอำนาจ และบารมีให้มีมากขึ้นกว่าเดิม

บ้านคนปีเถาะ (พ.ศ. 2530, 2518 และ 2506 )
เพื่อความสุขและความสำเร็จ บ้านของคนปีเถาะ ควรเป็นบ้านที่มีความร่มรื่น ร่มเย็น มีสนามหญ้า ต้นไม้ ดอกไม้ อ่างบัว ตัวบ้านมีความโปร่งโล่งสบาย มีแสงแดดและแสงสว่างพอประมาณ ในห้องนอนหรือห้องรับแขก ควรมีตุ๊กตาเซรามิครูปกระต่าย รูปไก่ รูปไข่ รูปหมู รูปเด็กทารก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งร่ำรวย จะช่วยให้เงินทองไม่รั่วไหลไปไหน ได้ปรับเงินเดือน ได้เลื่อนตำแหน่ง ได้พบกับความสมหวังและสมปรารถนาทุกประการ

บ้านคนปีมะโรง (พ.ศ. 2531, 2519 และ 2507)
เพื่อความเป็นสิริมงคล บ้านของคนปีมะโรง ควรจะมีชื่อบ้าน โดยเป็นชื่อที่เป็นมงคลและถูกต้องตามหลักทักษาของเจ้าของบ้าน ซึ่งโดยปกติแล้วมักจะใช้ชื่อหรือนามสกุลของเจ้าของบ้านมาเป็นชื่อบ้าน ซึ่งถ้าชื่อหรือนามสกุลถูกโฉลกอยู่แล้ว ชื่อบ้านก็ย่อมจะดีตามไปด้วย ชื่อบ้านต้องมีความเหมาะสมสอดคล้องกับลักษณะของบ้านและ ผู้อยู่อาศัย ห้ามขัดแย้ง หรือตรงกันข้ามกับความเป็นจริง ตัวอย่างเช่น บ้านทาสีฟ้าทั้งหลังแต่ตั้งชื่อบ้านว่าเรือนสีชมพู หรือ บ้านอยู่ติดภูเขา แต่ตั้งชื่อบ้านว่า บ้านริมทะเล ลักษณะอย่างนี้ถือว่าไม่เหมาะสมจะทำให้อับโชค พบเจอแต่อุปสรรคขวากหนามในการดำเนินชีวิต

บ้านของคนปีมะเส็ง (พ.ศ. 2532, 2520 และ 2508)
เพื่อความเจริญรุ่งเรือง บ้านของคนปีมะเส็งต้องมีแสงสว่างอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน ต้องให้ความรู้สึกว่าสว่างอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะในเวลากลางคืน ควรจะมีไฟภายนอกบ้านอย่างน้อยสัก 1 ดวงที่เปิดให้ความสว่างอยู่ตลอดคืนโดยเฉพาะไฟดวงไหนหากเปิดไว้แล้วนอกจากจะให้ความสว่างแก่บ้านของเรา ยังให้ความสว่างและความปลอดภัยแก่บ้านหลังอื่นและผู้ที่เดินทางผ่านไปมา ถือว่าเป็นมงคลอย่างยิ่ง บ้านมืดๆ จะนำภัยอันตรายและโชคร้ายมาสู่คนปีมะเส็ง

บ้านคนปีมะเมีย (พ.ศ. 2533, 2521 และ 2509)
เพื่อความเจริญก้าวหน้า บ้านของคนปีมะเมีย ต้องมีความเคลื่อนไหว เช่น มีธงโบกสะบัด มีน้ำพุ มีกังหัน มีโมบาย มีสุนัขหรือแมววิ่งเล่นกัน มีต้นไม้ใหญ่ที่โอนเอนตามสายลมภายในบ้าน ก็ควรมีสัญลักษณ์ของความเคลื่อนไหวหรือความเร็ว เช่น รถยนต์โบราณ รถไฟ เรือใบ เรือสำเภา เครื่องบิน จรวด ฯลฯ เพื่อเพิ่มความมั่งคั่งร่ำรวย บ้านที่สงบ นิ่งและเงียบเกินไป จะทำให้คนปีมะเมียอึดอับและอับโชค

บ้านคนปีมะแม (พ.ศ. 2534, 2522 และ 2510)
เพื่อความสุขและความสำเร็จ บ้านของคนปีมะแม ควรเป็นบ้านที่สะสมงานศิลปะ ไม่ว่าจะเป็น ภาพวาด ภาพถ่าย ภาพวิวทิวทัศน์ งานหล่อ งานปั้น งานแกะสลัก หนังสือ ซีดีเพลง ดีวีดีภาพยนตร์ ฯลฯ ล้วนถูกโฉลกและนำโชคดีมาสู่คนปีมะแม และถ้าผลงานศิลปะเหล่านั้น เป็นฝีมือของเจ้าของบ้านด้วยแล้ว จะยิ่งถูกโฉลกและโชคดีเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า

บ้านของคนปีวอก ( พ.ศ. 2523, 2511 และ 2499)
เพื่อความเจริญรุ่งเรือง บ้านของคนปีวอก ควรเป็นบ้านที่มีการขยับขยาย เพิ่มเติม ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปตามวันเวลาเพื่อให้สอดคล้องสมดุลกับผู้อยู่อาศัย หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ เป็นบ้านที่มีการเจริญเติบโตอยู่ตลอดเวลา ตัวอย่างเช่น มีต้นไม้ใหม่ๆ มาปลูกเพิ่มอยู่เสมอมีเฟอร์นิเจอร์ใหม่มาทดแทนของเดิมที่ชำรุดเสียหาย มีเก้าอี้ม้าหินชุดใหม่มาตั้งแต่เพิ่มในสวน มีการเปลี่ยนผ้าม่านใหม่ทุกๆ 2 ปี และทาสีบ้านใหม่ทุกๆ 3 ปี

บ้านของคนปีระกา (พ.ศ. 2524, 2512 และ 2500)
เพื่อความเป็นสิริมงคล บ้านของคนปีระกาต้องสวย สะอาด สดใส และดูใหม่อยู่เสมอ สิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้าน ควรจัดให้เป็นระเบียบเรียบร้อย รั้วบ้านและอาคารภายนอกบ้านควรทาสีใหม่ทุกๆ 3 ปี ภายในบริเวณบ้าน ห้ามมีสิ่งของแตกหัก ชำรุด เสียหาย ใบไม้แห้ง ต้นไม้หรือกิ่งไม้ที่เหี่ยวเฉาโรยรา โดยเด็ดขาด รอยร้าวบนผนัง หากพบเจอต้องรีบแก้ไขในทันที หลอดไฟ กลอน กุญแจ ประตู หน้าต่าง ต้องพร้อมใช้งานอยู่เสมอ

บ้านของคนปีจอ (พ.ศ. 2525, 2513 และ 2501)
เพื่อความมั่งมีศรีสุข บ้านของคนปีจอ ควรจะมีสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะสุนัข ซึ่งถือว่าเป็นสัตว์เลี้ยงนำโชคของคนปีจอ เพราะความซื่อสัตย์และแสนรู้ของสุนัข จะช่วยให้คนปีจออารมณ์ดี ร่าเริงแจ่มใส สมองปลอดโปร่ง ไม่เครียด ดังนั้นไม่ว่าจะคิดหรือทำอะไรก็ล้วนแต่โชคดีมีความสำเร็จ สุนัขที่เลี้ยงไว้ไม่ควรเลี้ยงตัวเดียว ควรเลี้ยงตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป แต่ก็อย่าให้มากเกิน ควรให้เหมาะสมกับบริเวณบ้านและกำลังในการดูแลเอาใจใส่

บ้านของคนปีกุน (พ.ศ. 2526, 2514 และ 2502)
เพื่อความมั่งคั่งร่ำรวย บ้านของคนปีกุน ต้องมีห้องครัวที่กว้างขวาง สะอาด สะดวก สบาย มีอุปกรณ์ในการทำครัวครบครัน เพราะการเข้าครัวทำอาหารของคนปีกุน ถือเป็นเรื่องมงคลนำมาซึ่งโชคลาภ ความสำเร็จ และความร่ำรวย และถ้ามีตุ๊กตาเซรามิครูปหมูสีขาวหรือสีชมพู สัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ วางไว้ในห้องรับแขกหรือห้องรับประทานอาหารด้วย จะยิ่งถูกโฉลก โชคดี เฮง เฮง เฮง เพิ่มมากขึ้น

Friday, March 25, 2011

15 หลักฮวงจุ้ยในที่ทำงาน

หากใครกำลังว้าวุ่นกังวลจิตกับเรื่องการงานไม่มีทางออก เพื่อนร่วมงานไม่ได้ดั่งใจ เจ้านายเจ้าอารมณ์ ฯลฯ ลองจัดออฟฟิศตามหลักฮวงจุ้ยคลายเครียดกันดีไหม เริ่มต้นง่ายๆ ที่โต๊ะทำงานของคุณเลย ถ้าคุณอยู่กับโต๊ะทำงานมากกว่า 5 ชม. ต่อวันฟังทางนี้

1. โต๊ะทำงานของเจ้าของกิจการหรือผู้บริหาร ถ้าอยู่ในตำแหน่งที่ดีจะส่งผลให้ธุรกิจที่ทำอยู่ประสบความสำเร็จ จึงควรนั่งอยู่ในตำแหน่งที่มีอำนาจในการควบคุมมากที่สุดคือ ตรงมุมห้องที่ทแยงกับประตูทางเข้าห้องทำงาน

2. สำหรับพนักงานทั่วไป ควรเลือกโต๊ะที่ทแยงมุมกับประตูมากที่สุดเช่นกัน แต่ต้องเห็นประตูและไม่หันหลังให้ประตู เพราะเชื่อกันว่าเพื่อนร่วมงานจะแทงข้างหลัง

3. ตำแหน่งของมุมทรัพย์ หรือมุมร่ำรวยมั่งคั่ง เมื่อเข้าห้องไปแล้วจะอยู่มุมซ้ายมือสุด ถ้ามี รูปปั้นเสือขาว ตั้งอยู่ในห้องทำงานก็ยิ่งจะส่งเสริมให้เกิดความมั่นคงในธุรกิจที่ประกอบอยู่

4. บรรยากาศภายในห้องทำงาน ควรจัดแต่งให้มีแสงสว่างและควรจัดดอกไม้ หรือแขวนรูปภาพ เพื่อเพิ่มบรรยากาศภายในห้องทำงานให้แลดูสดใส มีพลังและมีชีวิตชีวา ยามเหนื่อยล้าจะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดได้ด้วย

5. ถ้านั่งทำงานเผชิญหน้ากับเสา ที่เรียกว่า “มุมเสาศรพิฆาต” ให้ทำลายพลังอัปมงคลด้วยแท่งคริสตัล ว่ากันว่า การหา รูปหล่อสิงห์หรือคริสตัลรูปมังกร มาตั้งไว้ที่ด้านซ้ายของโต๊ะทำงาน จะช่วยแก้การนินทาว่าร้ายของเพื่อนร่วมงานได้เช่นกัน

6. โต๊ะทำงาน ควรเป็นโต๊ะที่ด้านล่างปิดทึบทั้งสามด้าน และการจัดโต๊ะให้ยึดหลัก ซ้าย (มังกร) ต้องสูงกว่าขวา (เสือขาว) เช่น จอ Monitor กองเอกสารควรอยู่ซ้ายมือ ปากกา Mouse มุมอุปกรณ์ที่มีส่วนไม่สูงมากควรวางอยู่ด้านขวามือ

7. Screen Server ไม่ควรมีรูปเป็นมุมแหลมหรือ X-Cross ควรเป็นรูปปลาว่ายน้ำเคลื่อนไหวตลอดเวลาเป็นดีที่สุด

8. ควรมี ต้นไม้เล็กๆ บริเวณ Monitor เพื่อลดความเข้มของสนามแม่เหล็ก และหาพืชขนาดกะทัดรัดที่สามารถปรับสภาพอากาศให้ดีมาตั้งไว้ตรงโต๊ะทำงาน หรือตามมุมห้องต่างๆ เช่น ต้นเงินไหล บอสตันเฟิร์น หรือฟิโลเดนดอล เป็นต้น

9. เก้าอี้ ควรใช้แบบไม่มีล้อ และพนักพิงหลังสูง

10. ถ้าเป็นห้องทำงานส่วนตัว ก็ให้ตั้งตัวมังกรไว้ที่ริมผนังห้องด้านซ้ายมือ(ยืนกลางห้อง หันหน้าไปทางประตู) สิ่งสำคัญคือ หันมังกรออกด้านนอก อย่าหันใส่ตัว ส่วนการเลือกขนาดมังกรให้ดูเหมาะสมกับสถานที่เป็นหลัก

11. ลักษณะโต๊ะทำงานทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าเหมาะสมที่สุด โต๊ะทรงกลมจะทำให้นั่งทำงานได้ไม่นาน เหมาะกับการประชุมมากกว่า

12. โต๊ะรูปตัวแอล “L” เหมาะกับพนักงานที่ทำงานใช้ความคิดเยอะ ด้านฐานของตัว L ที่เป็นตำแห่งไกลตัวคนนั่งที่สุดควรใช้วางคอมพิวเตอร์ (รูปประกอบ) เพราะคอมพิวเตอร์ทำให้เราไม่ค่อยสื่อสารกับคนอื่น

13. ควรเปิดหน้าต่างให้แสงสว่าง จากธรรมชาติเข้าสู่ห้องทำงานบ้าง นอกจากจะประหยัดไฟแล้ว ยังทำให้อากาศถ่ายเท รู้สึกมีชีวิตชีวา แถมร่างกายได้รับวิตามินดีอีกด้วย เพราะคนทำงานใต้ฟลูออเรสเซนต์มากๆ จะทำให้สมองล้า ร่างกายอ่อนแอ ปวดหัวง่าย สายตาเสีย และเป็นบ่อเกิดของความเครียดในที่สุด

14. ระวังอย่าจัดโต๊ะคอมพิวเตอร์ไว้ใกล้หน้าต่างเกินไป เพราะจะทำให้แสงสะท้อนจากหน้าจอเข้าตาได้

15. การใช้สีในที่ทำงานควรมีความสมดุลของแต่ละธาตุ เช่น สีเขียวของธาตุไม้ หมายถึงการเติบโตและการพัฒนา สีแดงของธาตุไฟ หมายถึงการขยับปรับเปลี่ยนเคลื่อนไหว กระฉับกระเฉง สีเหลืองของธาตุดิน หมายถึงความฉลาด มีปัญญา และมีเหตุผล สีน้ำตาลของธาตุดิน หมายถึงความมั่นคง สีขาวของธาตุเหล็ก หมายถึงการเริ่มต้นที่สดใส และสีดำของธาตุน้ำ หมายถึงการค้นหาความลับ

Wednesday, March 23, 2011

Wednesday, March 16, 2011

Idea ตกแต่งบ้านสำหรับคนบ้ารองเท้า




ได้เห็นรูปนี้แล้วเก๋ดี เจ้าของอาศัยอยู่คอนโดเล็กๆ ไม่มีที่เก็บรองเท้า เลยนำจุดอ่อนนี้มาเป็นจุดแข็งเสียเลย
ด้วยการนำมาใส่กล่องลายน่ารักๆ แล้วทำชั้นวางของติดกับกำแพง กล่องรองเท้าน่ารักๆทั้งหลายนี้ ก็
เลยกลายเป็นของแต่งห้องเก๋ๆไปอีกแบบ

Friday, March 11, 2011

เลือกสี... แต่งบ้านให้น่าอยู่




การที่บ้านจะน่าอยู่หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยประกอบตัวบ้านหลายประการ แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญและจะมองข้ามไปไม่ได้นั้นก็คือ "สีสันของบ้าน" ทั้งสีสันภายในและภายนอก ซึ่งการจะทำให้สีที่ติดอยู่กับตัวบ้านมีความสวยงามอย่างคงทน ทนแดดทนฝน การเลือกใช้สี ขั้นตอนการทาสี รวมถึงการดูแลรักษาก็ล้วนมีความสำคัญเท่าๆ กัน ขอแนะนำการทาสีตกแต่งบ้านสำหรับคนรักบ้านที่กำลังคิดจะแต่งบ้านให้น่าอยู่มาก ขึ้น

ปัจจุบันนี้สีที่มีขายอยู่ตามท้องตลาดมีนับร้อยๆ ชนิดให้ได้เลือก แต่วัสดุที่ใช้ทำสีและลักษณะการใช้งานได้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ

1.สีน้ำมันหรือสีเคลือบเงา ประเภทนี้จะต้องใช้น้ำมันหรือทินเนอร์เป็นตัวผสมทำให้สีเจือจาง ใช้สำหรับทางานไม้หรือโลหะเพื่อให้เกิดความเงางามและทำความสะอาดได้ง่าย

2.สีพลาสติกหรือสีอะคริลิก เป็นสีน้ำพลาสติก ใช้น้ำเป็นตัวผสมทำให้สีเจือจาง แต่เมื่อสีแห้งแล้วจะไม่ละลายหรือหลุดลอกไปตามน้ำ สีชนิดนี้เหมาะสำหรับทาผิวพื้นปูนหรือคอนกรีตทั่วไปรวมทั้งอิฐและกระเบื้อง แผ่นเรียบด้วย ซึ่งแบ่งได้ 2 ชนิด ตามลักษณะการใช้งานคือ สีทาภายในและสีสำหรับทาภายนอก สีพลาสติกสำหรับทาภายนอกจะมีคุณสมบัติในการทนแดดและฝนได้ดีกว่าสีชนิดทาภาย ใน นอกจากนี้สีพลาสติกต่างยี่ห้อก็ยังมีคุณสมบัติและความคงทนของสีแตกต่างกัน ออกไปด้วย ขึ้นอยู่กับส่วนผสมและปริมาณของเนื้อสีที่มีอยู่ทั้งนี้ระดับราคาก็แตกต่าง กันไปด้วย

ทั้งนี้ขั้นตอนในการเลือกใช้สีก็มีส่วนช่วยให้บ้านของคุณดูสวยงามและคงทน ด้วย โดยเริ่มจากการเลือกใช้สี ควรเลือกตามสเป็กหรือเบอร์สี สีขาวหม่นและสีธรรมชาติจะเหมาะสมที่สุดเพราะจะช่วยปิดบังรอยมือหรือความ สกปรกได้ดีกว่าสีอื่นๆ ห้องแต่ละห้องอาจใช้สีที่แตกต่างกันออกไปแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน แต่ละบริษัทผู้ผลิตสีจึงผลิตสีออกมาให้เลือกกันหลากหลาย เราจึงไม่ควรนำสีต่างๆ มาผสมเองเพราะมีโอกาสที่สีอาจผิดเพี้ยนไปได้ง่ายและไม่ควรนำสีเก่าหรือด้อย คุณภาพมาใช้ด้วย



ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

Thursday, March 10, 2011

ไอเดียตกแต่งบ้านด้วยกรอบรูป




ใครว่ากรอบรูปทำหน้าที่แค่ใส่รูปเท่านั้น ลองมาดูไอเดียเก๋ๆจากการประยุกต์ใช้กรอบรูปกันค่ะ




• กรอบรูปที่มีขนาดและลวดลายต่างกัน แค่คุณนำมาทาสีเดียวกันก็เข้าชุดกันแล้ว




• กรอบรูปไม่ได้มีไว้ใส่รูปเท่านั้น ลองนำกรอบรูปที่มีขอบหนาๆมาแขวนโดยไม่ใส่กระจก ใช้เป็นที่แขวนของใช้หรือวางของโชว์ชิ้นเล็กๆ




• ติดกรอบรูปให้ดูเก๋มีมิติ ด้วยการทำแป้นยึดให้มีความสูงต่ำต่างกัน หรือซ้อนให้ดูมีมิติแตกต่างออกไป

Friday, March 4, 2011

Bean bags นั่งเล่นในบ้าน







Bean bags นั่งเล่นในบ้าน

แต่งบ้านหวาน ด้วยสีพาสเทล






แต่งบ้านหวาน ด้วยสีพาสเทล





การเปลี่ยนสีห้องเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศที่ให้ผลมากที่สุดวิธีหนึ่ง สีที่ทำให้ห้องดูหวานไม่แพ้ใครคือ โทนสีพาสเทล ซึ่งเจือด้วยสีขาว ทำให้ความเข้มของสีลดลง ดูนุ่มนวล นิยมตกแต่งร่วมกับเฟอร์นิเจอร์สีขาวที่ช่วยเพิ่มดีกรีความขาว แต่การใช้โทนสีพาสเทลมากๆอาจทำให้ห้องดูไม่มีมิติได้เช่นกัน จึงอาจใช้ของตกแต่งที่มีสีเข้มกว่าสีผนังมาช่วยเสริมบางจุด เช่นภาพลายเส้นสีดำ หมอนลายดอกไม้ที่มีสีสัน ก็ช่วยให้ทั้งห้องไม่ดูกลืนกันไปจนขาดความน่าสนใจ