Monday, April 25, 2011

วิธีง่ายๆ เติมบ้านให้มีเสน่ห์


ไอเดียง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำเองได้ เมื่อนึกอยากจะปรับเปลี่ยนสิ่งต่างๆ ภายในบ้านให้ดูมีชีวิตชีวาขึ้น

มูลี่หรือฉาก เป็นการแบ่งพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านให้เป็นสัดส่วนแบบไม่ยุ่งยาก แถมยังมีราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับการต่อเติมหรือกั้นห้อง อีกทั้งยังช่วยซ่อนความรกของชั้นวางของและทำให้ห้องดูเรียบร้อยมากขึ้นอีกด้วย

ลองเปลี่ยนโคมไฟใหม่ เพราะแสงส่งผลต่อพื้นที่มากกว่าสิ่งอื่นใด และยังช่วยเปลี่ยนอารมณ์ของห้องได้อีกด้วย ดังนั้น การเปลี่ยนโคมไฟและหลอดไฟให้เหมาะกับห้องก็ช่วยสร้างบรรยากาศที่แตกต่างออกไป เช่น การติดโคมไฟแชนเดอเลียร์เหนือโต๊ะรับประทานอาหารเพียงอันเดียวก็ทำให้ห้องดูสวยงามมีสไตล์ขึ้น

จัดมุมเล็กๆ ของตัวเอง อาจเริ่มจากห้องนอนของตัวเองก่อน เพราะห้องนอนเป็นห้องที่แต่ละคนใช้งานมากกว่า 8 ชั่วโมงในแต่ละวัน ดังนั้น ถ้าห้องนอนของเราน่าอยู่ ก็จะมีแรงบันดาลใจในการตกแต่งห้องส่วนอื่นๆ ของบ้านต่อไป

ติดผ้าม่าน การติดผ้าม่านเป็นวิธีช่วยกรองแสงแดดให้เข้าสู่ตัวบ้านได้อย่างเหมาะสม และการติดผ้ากรุซับในด้านหลังม่านจะช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวให้ห้องนั้นๆ เทคนิคง่ายๆ อีกอย่างคือ ติดผ้าม่านชนิดทิ้งชายเป็นแนวยาวจากเพดานจรดพื้น จะช่วยพรางตาให้ห้องที่มีเพดานเตี้ยดูสูงขึ้น

ลองปรับเพียงเท่านี้ บ้านของคุณก็จะกลับมามีเสน่ห์ ชวนให้อยากพักผ่อนในแบบสบาย

Thursday, April 21, 2011

การจัดห้องนอนในคอนโด


ไม่ว่าคุณจะอยู่บ้าน หรืออยู่คอนโดฯ ห้องที่มีสำคัญเป็นอันหนึ่ง หนีไม่พ้น “ ห้องนอน” นั่นก็เพราะ 1 ใน 3 ของเวลาในแต่ละวันคือ เวลาที่ใช้ไปในห้องนอนน่ะเอง

ตำแหน่งห้องนอน : ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดในช่วงบ่ายที่จะทำให้ห้องร้อนในเวลากลางคืน แต่ยังไงห้องนอนก็ยังต้องการแสงแดดบ้างเหมือนกัน รวมทั้งต้องมีการระบายอากาศที่ดี ถ้าเป็นไปได้ควรมีหน้าต่างอย่างน้อย 2 ด้าน ให้ลมเข้า-ออก แต่อย่างมากเกินไป เพราะนอกจากไม่ได้ใช้ประโยชน์จากวิวภายนอกแล้ว(มีตึกบัง) ห้องนอนที่ติดกับอาคารข้างเคียงยังขาดความเป็นส่วนตัว แถมจัดวางเฟอร์นิเจอร์และเตียงลำบากด้วย

ห้องนอนบางห้องอาจมีระเบียงไว้ออกไปสูดอากาศ เป็นที่จัดสวน หรือตากผ้าห่ม เครื่องนอน ฯลฯ แต่ระเบียงก็ไม่ใช่สิ่งน่าอภิรมย์เสมอไป ยิ่งหากระเบียงไปติดกับอาคารข้างเคียงหรือติดถนนมากเกินไป ความเป็นส่วนตัวก็จะขาดหาย ยิ่งไปกว่านั้นถ้าไม่หมั่นทำความสะอาด ระเบียงก็จะกลายเป็นพื้นที่เก็บฝุ่นในที่สุด

พื้นที่ใช้สอยในห้องนอน : ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ส่วนนอน อันได้แก่ ชุดเตียงนอน อาจมีทั้งโต๊ะหัวเตียง สตูลปลายเตียง โคมไฟอ่านหนังสือ เป็นต้น ในส่วนนี้ “ เตียงนอน” เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่สำคัญที่สุด ควรวางไว้ส่วนในสุดของห้อง หันหัวเตียงเข้าหาผนังทึบ ไม่ควรวางหัวเตียงตรงกับหน้าต่างหรือช่องเปิด เพราะจะเปิดปิดไม่สะดวก ม่านหน้าต่างห้อยลงมาเกะกะ ทำความสะอาดยาก ควรวางให้สามารถเดินรอบเตียงได้ทั้ง 3 ด้าน แต่งคอนโด-แต่งบ้านให้น่าอยู่

ส่วนแต่งตัว : เป็นบริเวณที่ใช้เก็บเสื้อผ้า และแต่งตัว มักอยู่ส่วนแรกสุดของห้อง(นับจากประตูเข้าห้อง)หรือต่อเนื่องมาจากห้องน้ำ ประกอบไปด้วยตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง

เราสามารถเพิ่มเติมบริเวณใช้สอยอื่นๆ ตามกิจกรรมของเจ้าของห้อง เช่น ส่วนทำงาน (อาจดัดแปลงโต๊ะแต่งตัวเป็นโต๊ะทำงาน) ส่วนพักผ่อนที่เพิ่มคอนโซล (ตู้เตี้ยวางของ) สำหรับวางทีวี เครื่องเสียง ถ้ามีพื้นที่มากพออาจมีชุดโซฟา เก้าอี้พักผ่อน หรือเครื่องออกกำลังกาย ก็ได้

ห้องนอน จะแต่งยังไงก็แล้วแต่ใจเจ้าของห้อง แต่ที่ไม่ลืม เพระนั่นคือสิ่งสำคัญที่สุดในการตกแต่งห้องนอน นั่นคือ การทำให้ร่างกายนอนหลับได้สนิท อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง ในห้องที่เงียบสงบ อุณหภูมิพอเหมาะ และอากาศถ่ายเทได้ดี

Saturday, April 16, 2011

เทคนิคแต่งคอนโดพื้นที่จำกัด ให้กว้างขวาง


ปัญหาของคนที่อาศัยอยู่คอนโดก็คือพื้นที่ใช้สอยที่มีจำกัด โดยเฉพาะเมื่อเราอยู่ไปนานๆ ของตกแต่งและของใช้ต่างๆ ที่เราซื้อเพิ่มเข้ามา ล้วนแต่ทำให้คอนโดของเราดูแคบและรกไปถนัดตา วันนี้ Gmember จะพาไปพบกับอินทีเรียดีไซเนอร์ เพื่อขอคำแนะนำสำหรับตกแต่งคอนโดหลังเก่า ให้มีพื้นที่กว้าง โล่ง โปร่ง และอยู่สบาย

1. การจัดพื้นที่ใช้สอยภายในคอนโดนั้น ควรเลี่ยงการวางเฟอร์นิเจอร์ขวางกั้นบริเวณทางเดิน เพื่อให้ทางเดินดูต่อเนื่อง

2. การจัดวางตู้ และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ควรจะจัดให้ชิดติดผนังมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แทนที่จะยกลอยอยู่กลางห้อง ทั้งนี้เพื่อช่วยให้พื้นที่ดูโล่งและกว้างมากที่สุด

3. การตกแต่งภายในนั้น ควรออกแบบโดยใช้โทนสีอ่อน และวอลล์เปเปอร์ที่ดูเรียบๆ ไม่จำเป็นต้องมีรายละเอียดมากเกินไป

4. พวกตู้และชั้นวางของ ควรทำเป็น Built-in เพื่อให้ดูเป็นส่วนเดียวกับผนัง ประหยัดพื้นที่ และช่วยพรางตาได้ดีมากดีเทียว

5. พวกตู้และโต๊ะรับแขก สามารถยกลอยขึ้นจากพื้น หลบมุมมองสายตา ทำให้เห็นเนื้อที่พื้นมากขึ้น นอกจากนี้ ตู้เองจะดูเบาขึ้นเพราะเสมือนถูกยกลอยอยู่ด้วย

6. การเปิดผนังระหว่างห้องน้ำ และห้องนอนด้วยการใช้บานเฟี้ยม หรือบานกระจกขุ่น ก็จะช่วยให้ห้องน้ำดูกว้าง และโล่งขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะสำหรับห้องน้ำที่ไม่ได้ติดหน้าต่างอยู่แล้วนั้น จะเป็นการช่วยนำ แสงธรรมชาติเข้ามาสู่ห้องน้ำได้

7. สำหรับห้องน้ำ ทำเป็นหลืบวางของแทนที่จะเป็นชั้นวางของ ทำให้ห้องดูเรียบๆ และกว้างขึ้นได้อีก

จัดบ้านสวยด้วยวอล์เปเปอร์



จัดบ้านสวยด้วยวอล์เปเปอร์

Thursday, April 14, 2011

การออกแบบให้ห้องน้ำกว้างขึ้น


บ้านไหนที่มีพื้นที่ห้องน้ำไม่กว้างมากนัก และอยากออกแบบให้ดูกว้างขึ้น วันนี้เดลินิวส์ออนไลน์มีเคล็ดลับการออกแบบมาฝากกัน...

ความสูงของห้องน้ำ : ห้องน้ำปัจจุบันจะมีฝ้าเพดานในห้องน้ำ การกำหนดระดับของฝ้าเพดานให้มีความสูงมากขึ้นจะช่วยลดความอึดอัดจากพื้นที่เล็ก ๆในห้องน้ำได้ และถ้าฝ้าเพดานติดแนวคานหรือแนวท่อ อาจจะทำฝ้าเพดานเป็นฝ้าหลุมในห้องน้ำก็ได้

กระจก : กระจกเงา คือ สิ่งที่จะช่วยให้ห้องน้ำดูกว้างขึ้น การตกแต่งพื้นที่ผนังในห้องน้ำด้วยกระจกในบางด้านจะทำให้ห้องน้ำดูกว้างขึ้นมาทันที

แสง : แสงสว่างที่เพียงพอจะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ห้องน้ำควรออกแบบให้มีช่องรับแสงจากธรรมชาติ และมีปริมาณแสงจากหลอดไฟอย่างเพียงพอ

กระเบื้อง : การเลือกใช้กระเบื้องแผ่นใหญ่ ๆ จะให้ความรู้สึกสบายมากกว่า และควรใช้สีโทนอ่อน ไม่ควรใช้สีทึบและที่มีลวดลายมากนักเพราะจะทำให้รู้สึกอึดอัด

สุขภัณฑ์ : ควรหลีกเลี่ยงสุขภัณฑ์ที่มีขนาดใหญ่ เช่น ควรใช้ฝักบัวแบบติดผนังแทนอ่างอาบน้ำ ใช้ชักโครกแบบฟลัชแทนแบบแท็งค์ และใช้อ่างล้างมือแบบลอยตัวขนาดเล็กแทนแบบเคาน์เตอร์ขนาดใหญ่

ตู้เก็บของ : ถ้าสามารถเก็บไว้นอกห้องน้ำได้ก็จะดีที่สุด แต่ถ้ามีความจำเป็น ควรทำเป็นตู้เคาน์เตอร์ใต้อ่างล้างมือ หรือทำเป็นตู้ลอยติดผนังด้านที่มีกระจกก็ได้

ประตู : ประตูแบบบานเลื่อนคือประตูที่ลดความอึดอัดได้ดีที่สุด ถ้าห้องน้ำสามารถใช้ประตูแบบบานเลื่อนได้ก็ควรจะใช้

ถ้าอยากมีห้องน้ำที่ดูกว้างขึ้น นำเคล็ดลับที่แนะนำไปปฏิบัติตามกันได้.

ขอบคุณที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์

Wednesday, April 13, 2011

6 วิธีปรับบ้านแคบให้ดูกว้างขึ้น


ปัจจุบันราคาสินค้าและที่ดินมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆการจะสร้างบ้านสักหลัง
ก็ต้องคิดถึงงบประมาณต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็นราคาที่ดิน ราคาวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ ค่าจ้างช่างในการก่อสร้าง จึงทำให้บ้านมีขนาดเล็กตามงบประมาณที่จำกัด การจัดบ้านจึงค่อนข้างยาก เรามีวิธีทำให้บ้านดูกว้างขึ้นได้ด้วยวิธีง่ายๆดังนี้คือ


1. ไม่กั้นก็ไม่แคบ
การกั้นผนังทึบจะทำให้บ้านดูแคบลงไปอีก หากต้องการกั้นหรือแบ่งพื้นที่ควรกั้นผนังแบบโปร่ง โดยการทำชั้นวางของ ใช้ฉากหรือม่านที่เลื่อนปิดเปิดได้ หรือใช้สีหรือพื้นผิวของผนังและพื้นในการแบ่งพื้นที่ เป็นการเพิ่มพื้นที่และมิติให้บ้าน


2. หนึ่งชิ้นหลายหน้าที่
เฟอร์นิเจอร์ปัจจุบันมีการออกแบบให้ใช้งานได้หลากหลาย ช่วยประหยัดพื้นที่ได้มาก การจัดวางก็สำคัญ ควรตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสม สามารถใช้งานเฟอร์นิเจอร์เหล่านั้นร่วมกันได้ เช่น วางโต๊ะกลางในตำแหน่งที่เป็นได้ทั้งโต๊ะรับประทานอาหาร โต๊ะนั่งเล่น และโต๊ะทำงาน


3. ปรับเปลี่ยนประหยัดที่
เฟอร์นิเจอร์ที่สามารถยืด หด พับเก็บหรือมีล้อเลื่อน จะช่วยประหยัดพื้นที่ได้มากในการจัดเก็บ และสามารถเคลื่อนที่ไปใช้งานในส่วนต่างๆได้ หากเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถเก็บแบบ ซ้อนชิ้นเล็กในชิ้นใหญ่หรือถอดประกอบแยกส่วนได้ด้วยจะยิ่งช่วยประหยัดพื้นที่ได้มากทีเดียว


4. บิลท์อินช่วยได้
การทำเฟอร์นิเจอร์บิลท์อินนั้นจะทำให้เสียพื้นที่ในบางส่วนไป แต่เป็นวิธีที่จัดการกับพื้นที่ที่จำกัดได้ดี ใช้ประโยชน์คุ้มค่าและตรงกับความต้องการของเราได้ดีกว่าการใช้เฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัว เพราะสามารถออกแบบให้มีขนาดพอดีกับข้าวของเครื่องใช้และพื้นที่จำกัด เก็บของได้เป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น



5. ติดผนังเพิ่มพื้นที่
หากพื้นที่บ้านไม่เพียงพอที่จะวางข้าวของที่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ เราสามารถเพิ่มพื้นที่ใช้สอยด้วยการใช้ประโยชน์จากที่ว่างทางแนวตั้ง ไม่ว่าจะทำชั้น หรือราวที่สามารถนำของนั้นไปวางไว้ได้แล้ว เราจะเห็นว่าบ้านเรานั้นยังมีพื้นที่ให้ใช้งานอีกมากมาย


6. เทคนิคลวงตา
โดยใช้พื้นฐานในการออกแบบ เช่น เส้น สี แสง เงาและผิวสัมผัสมาใช้ในการตกแต่งบ้าน เพื่อช่วยหลอกตาเราว่าบ้านกว้างขึ้น เช่น การใช้วัสดุปูพื้นที่มีลายเส้นแนวนอนจะช่วยให้บ้านดูยาวขึ้น การใช้วัสดุผิวมันวาว เช่น กระจกหรือสเตนเลส เพื่อสร้างเงาสะท้อนเพิ่มมิติให้กับพื้นที่ ใช้เฟอร์นิเจอร์แบบโปร่งบาง ทำให้ห้องดูโล่ง การใช้สีอ่อนๆหรือการจัดแสงไฟทำให้ห้องดูสว่างขึ้น เป็นต้น


ทั้งนี้สิ่งสำคัญในการจัดบ้านที่มีพื้นที่แคบก็คือพยายามสร้างความต่อเนื่องภายในพื้นที่ไว้ให้มากที่สุด เพียงเท่านี้บ้านก็จะดูเป็นสัดส่วน กว้างขึ้น

Tuesday, April 12, 2011

ไอเดียตกแต่งคอนโด แบบประหยัดพื้นที่


การจัดแบบนี้ เหมาะสำหรับคอนโดหรือบ้านที่มีขนาดเล็กมาก เป็นได้ทั้งมุมทำงานและห้องรับแขกไปในตัวเลยค่ะ

ตกแต่งมุมทำงานเล็กๆ


มุมทำงานเล็กๆ แต่สวย และดูดีเลยทีเดียวค่ะ

Saturday, April 9, 2011

ตกแต่งห้อง - โทนสีแดง


ความรู้สึกเกี่ยวกับสีในเชิงจิตวิทยา - สีแดง

ให้ความรู้สึกร้อน รุนแรง กระตุ้น ท้าทาย เคลื่อนไหว ตื่นเต้น เร้าใจ มีพลัง ความอุดมสมบูรณ์ ความมั่งคั่ง ความรัก ความสำคัญ อันตราย

Friday, April 8, 2011

ตกแต่งห้องนอน - โทนสีชมพู


ความรู้สึกเกี่ยวกับสีในเชิงจิตวิทยา - สีชมพู

ให้ความรู้สึก อบอุ่น อ่อนโยน นุ่มนวล อ่อนหวาน ความรัก เอาใจใส่ วัยรุ่น หนุ่มสาว ความน่ารัก ความสดใส



ภาพจาก http://www.marthastewart.com

ตกแต่งห้องนอน - โทนสีฟ้า

ความรู้สึกเกี่ยวกับสีในเชิงจิตวิทยา - สีฟ้า

ให้ความรู้สึก ปลอดโปร่งโล่ง กว้าง เบา โปร่งใส สะอาด ปลอดภัย ความสว่าง ลมหายใจ ความเป็นอิสระเสรีภาพ การช่วยเหลือ แบ่งปัน

Thursday, April 7, 2011

ปรับฮวงจุ้ยต้อนรับหน้าฝน

1.เก็บบ้าน - หน้าต่างผนังแตกร้าว หลังคารั่ว ข้าวของระเกะระกะ ถ้าไม่ซ่อมจะทำให้พลังงานชี่หมุนเวียนไม่สะดวก


2.ดูแลประตู - ความชื้นที่มากับฝน มักทำให้พื้นไม้หรือประตูไม้ขยาย จึงต้องหมั่นหยอดน้ำมันให้ประตูเปิดปิดง่าย การออกแรงผลักประตูและปล่อยให้มีเสียงบานพับดังจะขับไล่ชี่ที่ดีในบ้านออกไป และทำให้ชี่ในร่างกายแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย


3.สีแดงเสริมพลัง - เปลี่ยนรูปหรือของแต่งบ้านเป็นสีแดง เพราะสีแดงเป็นสีให้พลังหยินหยาง ช่วยกระตุ้นให้เกิดความสดชื่น มีชีวิตชีวา


4.ใส่ใจน้ำในบ้าน - ศาสตร์ฮวงจุ้ยถือว่าน้ำที่ไม่เคลื่อนไหวหรือกลิ่นเหม็นเป็น "น้ำตาย" และเรียกบ่อน้ำใช้ที่ขาดการดูแลว่า "ที่เก็บกักความเศร้าและความขมขื่น" วิธีแก้คือปลูกต้นไม้เหนือบ่อน้ำ เพื่อชักนำชี่ที่เลวร้ายขึ้นมาเปลี่ยนให้เป็นชี่ที่ดีกว่าเดิม


5.ทำราวตากผ้าหนีฝน - ติดตั้งราวตากผ้าแบบติดผนังพับเก็บง่าย หรือทำเองโดยใช้ไม้อัดทำเป็นกรอบเหมือนกรอบรูป แล้วใช้เชือกทำเป็นราว ไม้และเชือกเป็นตัวแทนของธาตุไม้ ช่วยเสริมพลังแสงอาทิตย์หรือธาตุไฟทำให้ผ้าแห้งเร็วขึ้น


6.ปลูกต้นไม้ไล่แมลง - ปลูกต้นเพียริส (Pieris) หรือต้นโคมไฟทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือหรือทิศตะวันตกเฉียงใต้ของบ้าน กลิ่นของมันช่วยขับไล่แมลง ยุง มด และแมลงเม่าได้ดีนัก


7.ขับขี่ปลอดภัย - ผูกเหรียญจีนโบราณสีทอง 3 เหรียญ ประทัดจีน หรือคริสตัลไว้ที่กระจกมองหลังของรถ เพื่อเป็นเคล็ดในการเดินทางไปสู่ความมั่งคั่ง โชคลาภ และสุขภาพที่ดี


8.ทำตนให้เหมือนน้ำ - แม้จะปรับเปลี่ยนพื้นที่ให้ถูกต้องแล้ว แต่ศาสตร์ฮวงจุ้ยบอกว่า ถ้าไม่มีคุณธรรมก็ยากที่จะเรียกโชคลาภหรือความสำเร็จใด ๆ ได้ หน้าฝนนี้ควรทำตัวเสมือนสายน้ำ แสดงน้ำใจช่วยเหลือผู้อื่นให้มากที่สุด


เล่าจื๊อ บอกว่า "น้ำคือสิ่งที่มีคุณค่าสูงสุด ความดีของน้ำคือการทำประโยชน์แก่หมื่นสรรพสัตว์"

ตกแต่งมุมห้อง - โทนสีเขียว

ความรู้สึกเกี่ยวกับสีในเชิงจิตวิทยา - สีเขียว

ให้ความรู้สึก สงบ เงียบ ร่มรื่น ร่มเย็น การพักผ่อน การผ่อนคลาย



ธรรมชาติ ความปลอดภัย ปกติ ความสุข ความสุขุม เยือกเย็น

Tuesday, April 5, 2011

ไอเดีย จัดมุมเก็บร่ม



เคยไหมคะ? ที่บางครั้งไม่รู้จะเก็บร่มอย่างไรดี ได้แต่วางเกะกะ ไม่เป็นระเบียบ


พอดีไปเจอวิธีการเก็บร่มให้กลมกลืน เป็นส่วนหนึ่งของบ้านคุณได้



ที่มา marthastewart.com

จัดระเบียบห้องน้ำ


ไอเดียง่ายๆกับการจัดห้องน้ำให้เป็นระเบียบน่าใช้


ภาพจาก http://www.marthastewart.com

Monday, April 4, 2011

สร้างรั้วบ้านตามหลักฮวงจุ้ย

1. ห้ามสร้างรั้วบ้านก่อนสร้างบ้าน

ข้อห้ามนี้คงเคยได้ยินกันมาบ้าง ในตำราให้เหตุผลเอาไว้ว่าเหมือนสร้างคุก รอคนเข้าไปอยู่เพราะกำแพงล้อมทั้งสี่ด้านก็ไม่ต่างไปจากคุกนั่นเอง หลักการสร้างบ้านจะต้องสร้างจากด้านในขยายไปสู่ด้านนอกจึงจะถือว่าถูกต้อง รั้วจึงเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่จะสร้าง


2. ห้ามสร้างรั้วสูงหรือต่ำเกินไป

การสร้างกำแพงรั้วสูงจะปิดบังลมที่พัดเข้าบ้าน และผู้อยู่อาศัยจะรู้สึกอึดอัดเหมือนอยู่ในที่คุมขัง การสร้างรั้วสูงส่วนใหญ่จะเหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่มากๆ แล้วตัวบ้านไม่ได้อยู่ชิดรั้วมากจนเกินไปความรู้สึกอึดอัดก็จะลดน้อยลง ถ้าสร้างรั้วต่ำก็ล่อแหลมต่อการถูกโจรขโมยขึ้นบ้าน เพราะฉะนั้นจึงควรกำหนด ความสูงของรั้วให้อยู่ในระดับที่พอดี


3. รั้วโปร่งดีกว่าทึบ

การสร้างรั้วโปร่งจะให้ความรู้สึกสบายไม่อึดอัดกับผู้อยู่อาศัยในบ้านการไหลเวียนของลมที่พัดเข้าสู่บ้านก็จะได้ประโยชน์เต็มที่ แต่ถ้าเป็นกรณี ของบริษัท โรงงาน โกดังเก็บของ อาจจำเป็นจะต้องสร้างรั้วทึบเพื่อป้องกันโจรขโมย เพราะฉะนั้นการสร้างรั้วจึงต้องดูที่ความจำเป็นและประโยชน์ใช้สอยด้วย


4. ห้ามเจาะช่องหน้าต่างที่กำแพงรั้ว

ถ้ารั้วเป็นกำแพงทึบ การเจาะ ช่องที่กำแพง ถือเป็นข้อห้าม เพราะจะทำให้บ้านนั้นจะเก็บทรัพย์เอาไว้ไม่อยู่ นอกจากนี้ บ้านยังขาดความมั่นคง โจรขโมยสามารถมองเห็นภายในบ้านได้ง่าย


5. รั้วบ้านห้ามทำเป็นลูกกรงซีกหรือเหล็กแหลม

ลักษณะของรั้วลูกกรงที่มีเหล็กแหลมอยู่ด้านบนคนที่อยู่ในบ้านก็ไม่ต่างไปจากสัตว์ที่ถูกขังอยู่ในกรงหรือกรณีที่เอาเศษแก้วไปเสียบเอาไว้บนขอบรั้ว กำแพงเพื่อป้องกันขโมยปีกเข้าบ้านก็จะเข้าข่ายเดียวกันในทางฮวงจุ้ยถือว่าไม่เป็นมงคลอย่างยิ่ง ถ้าจะใช้รั้วแบบนี้ ควรจะมีการแต่งลวดลายโค้งวงกลมเสริมเข้าไปยอดบนที่มีลักษณะลูกศรที่แหลมคมก็ใช้วงกลมใส่แทนเข้าไปเพื่อลดความรู้สึกก้าวร้าว ของความแหลมคมลง


6. วัสดุในการสร้างรั้วเป็นไม้ดีที่สุด

การสร้างรั้วบ้านโดยใช้วัสดุที่เป็นไม้จะให้ความรู้สึกที่ดีและเหมาะกับบ้านอยู่อาศัยมากที่สุด เพราะไม้เป็นวัสดุจากธรรมชาติโดยตรง คนในบ้าน จะรู้สึกใกล้ธรรมชาติมากกว่ารั้วที่เป็นปูนหรือเหล็ก แต่ในปัจจุบันรั้วบ้านส่วนใหญ่ จะวัสดุที่เป็นปูนผสมเหล็กเพราะแข็งแรงกว่า และประหยัดกว่าการใช้ไม้ที่มีราคาค่อนข้างแพง ถ้ารั้วจะเป็นปูนหรือเหล็กก็คงไม่ผิดอะไรขอให้แข็งแรงเป็นใช้ได้


7. การปลูกต้นไม้ทำเป็นรั้ว

ลักษณะรั้วแบบนี้มีให้เห็นไม่บ่อยนัก เพราะคนไม่ค่อยนิยมทำกันเนื่องจากมองว่าแข็งแรงสู้รั้วปูนไม่ได้ นอกจากนี้ยังดูแลยากต้องคอยตัดแต่งต้นไม้อยู่เสมอ ส่วนใหญ่จะนิยมทำกันตามบ้านที่มีระบบการรักษาความปลอดภัยดีอย่างหมู่บ้านใหญ่ ๆ เพราะไม่ต้องห่วงในเรื่องของโจรขโมยขึ้นบ้าน ในทางฮวงจุ้ยถือว่ารั้วแบบนี้เป็นรั้วธรรมชาติจริง ๆ ย่อมส่งผลดีต่อบ้านนั้นมากกว่าเสีย


8. รั้วที่ชำรุดหรือแตกร้าวเป็นลางร้าย

ในทางฮวงจุ้ยจะให้ระวังสิ่งที่เสื่อมสภาพหรือชำรุด เพราะถือเป็นลางร้ายที่บ่งบอกว่าบ้านหลังนั้นจะประสบกับปัญหาเจ้าของบ้านจะพบกับความล้มเหลวได้ รั้วบ้านที่แตกร้าวผุผังแทนความหมายของความมั่นคงที่ถูกทำลายลง เพราะสิ่งที่ป้องกันภัยจากนอกบ้านกำลังเสื่อมสภาพลง เพราะฉะนั้นจึงควรหมั่นดูแลรักษาสภาพของรั้วให้แข็งแรงและดูใหม่อยู่เสมอ


เพียงเท่านี้ ก็เลือกสร้างรั้วให้เหมาะกับฮวงจุ้ยได้แล้ว.

Sunday, April 3, 2011

ตกแต่งห้องนั่งเล่น แบบโปร่ง



ไปเจอแบบการตกแต่งห้องนั่งเล่นมาค่ะ ดูโปร่งโล่ง น่าจะเหมาะกับอากาศร้อนๆแบบบ้านเราดี การตกแต่งแบบนี้ทำให้ทำความสะอาดง่ายด้วยค่ะ ไม่เป็นที่กักเก็บเชื้อโรคและฝุ่น