Saturday, August 27, 2011

ตกแต่งบ้าน สไตล์คันทรี่


จะว่าไปแล้วการตกแต่งบ้านก็เหมือนกับการแต่งตัว คนหนึ่งก็ชอบอย่างหนึ่ง สไตล์ใครสไตล์มัน ฉบับนี้ขอนำวิธีการตกแต่งบ้านอีกแบบหนึ่งจากคอลัมน์ "สถาปัตย์ทรงเครื่อง" เขียนโดย "แก้มยุ้ย" ในนิตยสาร "คู่บ้าน" ในกลุ่มพันธมิตรบริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) มาฝากท่านผู้อ่าน โดยผู้เขียนแนะนำให้ลองไปปรับหรือเปลี่ยนแปลงมุมบ้านให้เป็นไปตามสไตล์คันทรี่ เพื่อให้เกิดมุมที่มีความเป็นธรรมชาติ น่าอยู่ น่าสบาย

จะว่าไปแล้ว การตกแต่งสไตล์ "คันทรี่" นี้ก็สามารถทำได้ด้วยตนเอง แล้วแต่ว่าคนคนนั้นต้องการสไตล์ที่ออกมาแล้วเป็นรูปแบบไหน จะดูแบบเรียบง่าย ลูกทุ่งๆ หรือว่าเป็นแบบหรูหรา ฟุ้งเฟ้อ แต่โดยปกติแล้วการตกแต่งบ้านพักอาศัยให้ออกมาเป็นแบบสไตล์คันทรี่นั้น ก็มีวัสดุให้เลือกใช้ได้หลากหลาย เช่น แผ่นไม้ เปลือกไม้ ซุง หิน ต้นไม้ หรือว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ประดับต่างๆ

เราจะมาไกด์ไอเดียในการตกแต่งมุมมุมหนึ่งในบ้านให้เป็นสไตล์คันทรี่แบบลูกทุ่งๆ กัน เพื่อให้เกิดความงามที่ดูเรียบง่ายและสามารถทำกันได้ทุกๆ คน

ก่อนอื่นเราลองมาดูกันซิครับว่า ในบ้านเรามีมุมมุมหนึ่งที่ไม่ค่อยได้ใช้งานหรือไม่ ถ้ามีก็เข้าทางเราพอดี

ขั้นตอนแรก ดูทำเลสถานที่ก่อนว่าเป็นอย่างไร อยู่ด้านในหรือว่าด้านนอก จากนั้นก็จัดแจงวัดพื้นที่ซะเลย ว่าเป็นพื้นที่อย่างไร มีส่วนไหนที่จะเป็นอุปสรรคในการตกแต่งหรือไม่ ถ้ามีควรจัดการโยกย้ายเพื่อให้พื้นที่ของเราเป็นมุมที่เราสามารถทำงานได้สะดวก

ขั้นตอนที่ 2 จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ที่เราคิดว่าได้ความรู้สึกถึงความเป็นคันทรี่ พรมขนาดพอเหมาะกับพื้นที่ในมุมนั้นๆ เฟอร์นิเจอร์ไม้ฉลุสวยๆ โคมไฟเก่าๆ โต๊ะไม้สัก (เก่า) อุปกรณ์ตกแต่งเล็กๆ น้อยๆ เช่น ตุ๊กตารูปคาวบอยหรือตุ๊กตาคนขี่วัว ภาพแขวนผนังรูปฟาร์มทุ่งโล่ง หรือรูปภาพนักสู้วัวกระทิง

ขั้นตอนที่ 3 ลองวางไอเดียคร่าวๆ ว่าจะจัดวางเฟอร์นิเจอร์อย่างไร โดยการกำหนดจุดวางพรมก่อน แล้วจึงจัดวางเฟอร์นิเจอร์เป็นลำดับถัดไป แต่ต้องอย่าลืมว่าเราจะไม่จัดแบบเป็นทางการมากนัก เพราะว่าเราต้องการอารมณ์ที่ให้ความรู้สึกสบายๆ มากกว่าความรู้สึกแบบเป็นทางการ

ขั้นตอนที่ 4 ลงมือตกแต่งด้วยอุปกรณ์ที่ตระเตรียมไว้ จัดวางตุ๊กตาคาวบอยไว้ตรงกลางโต๊ะไม้สัก (เก่า) อาจจะเสริมด้วยแจกันทรงเตี้ยๆ ใส่ดอกไม้สักหนึ่งดอก ด้านแบ็ก กราวนด์หลังถ้ายังโล่งอยู่ก็นำภาพแขวนผนังที่เตรียมไว้มาติดเพื่อเพิ่มบรรยากาศให้มีความรู้สึกเหมือนกับอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ

ขั้นตอนที่ 5 จัดการติดตั้งโคมไฟที่เตรียมไว้ พยายามติดให้ระยะของแสงสว่างส่องลงมาในบริเวณส่วนของที่นั่งเท่านั้น เพื่อเป็นการกำหนดขอบเขตของแสงให้มีความรู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเอง

ขั้นตอนสุดท้าย จัดหาไฟดวงเล็กๆ พยายามจัดแสงสว่างให้ส่องเข้าไปหาผนังเพื่อให้ผนังดูซอฟต์ขึ้น และทำให้บรรยากาศในบริเวณนั้นอบอุ่นขึ้น พร้อมทั้งหาวิทยุรุ่นเก่าๆ ที่ยังสามารถเปิดเพลงได้ เปิดเสียงเพลงคลอเบาๆ ไปในขณะนั่งเล่น จะช่วยทำให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี

เพียงเท่านี้มุมห้องของผู้อ่านทุกท่านก็กลายเป็นมุมสบายๆ สไตล์คันทรี่กันไปเรียบร้อยแล้ว

Tuesday, August 2, 2011

ห้องนอนสีน้ำตาล


ห้องนอนสีน้ำตาล
ภาพจาก cadresolution.com

เลือกสี... แต่งบ้านให้น่าอยู่

การที่บ้านจะน่าอยู่หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยประกอบตัวบ้านหลายประการ แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญและจะมองข้ามไปไม่ได้นั้นก็คือ "สีสันของบ้าน" ทั้งสีสันภายในและภายนอก ซึ่งการจะทำให้สีที่ติดอยู่กับตัวบ้านมีความสวยงามอย่างคงทน ทนแดดทนฝน การเลือกใช้สี ขั้นตอนการทาสี รวมถึงการดูแลรักษาก็ล้วนมีความสำคัญเท่าๆ กัน ขอแนะนำการทาสีตกแต่งบ้านสำหรับคนรักบ้านที่กำลังคิดจะแต่งบ้านให้น่าอยู่มาก ขึ้น

ปัจจุบันนี้สีที่มีขายอยู่ตามท้องตลาดมีนับร้อยๆ ชนิดให้ได้เลือก แต่วัสดุที่ใช้ทำสีและลักษณะการใช้งานได้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ

1.สีน้ำมันหรือสีเคลือบเงา ประเภทนี้จะต้องใช้น้ำมันหรือทินเนอร์เป็นตัวผสมทำให้สีเจือจาง ใช้สำหรับทางานไม้หรือโลหะเพื่อให้เกิดความเงางามและทำความสะอาดได้ง่าย

2.สีพลาสติกหรือสีอะคริลิก เป็นสีน้ำพลาสติก ใช้น้ำเป็นตัวผสมทำให้สีเจือจาง แต่เมื่อสีแห้งแล้วจะไม่ละลายหรือหลุดลอกไปตามน้ำ สีชนิดนี้เหมาะสำหรับทาผิวพื้นปูนหรือคอนกรีตทั่วไปรวมทั้งอิฐและกระเบื้อง แผ่นเรียบด้วย ซึ่งแบ่งได้ 2 ชนิด ตามลักษณะการใช้งานคือ สีทาภายในและสีสำหรับทาภายนอก สีพลาสติกสำหรับทาภายนอกจะมีคุณสมบัติในการทนแดดและฝนได้ดีกว่าสีชนิดทาภาย ใน นอกจากนี้สีพลาสติกต่างยี่ห้อก็ยังมีคุณสมบัติและความคงทนของสีแตกต่างกัน ออกไปด้วย ขึ้นอยู่กับส่วนผสมและปริมาณของเนื้อสีที่มีอยู่ทั้งนี้ระดับราคาก็แตกต่าง กันไปด้วย

ทั้งนี้ขั้นตอนในการเลือกใช้สีก็มีส่วนช่วยให้บ้านของคุณดูสวยงามและคงทน ด้วย โดยเริ่มจากการเลือกใช้สี ควรเลือกตามสเป็กหรือเบอร์สี สีขาวหม่นและสีธรรมชาติจะเหมาะสมที่สุดเพราะจะช่วยปิดบังรอยมือหรือความ สกปรกได้ดีกว่าสีอื่นๆ ห้องแต่ละห้องอาจใช้สีที่แตกต่างกันออกไปแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน แต่ละบริษัทผู้ผลิตสีจึงผลิตสีออกมาให้เลือกกันหลากหลาย เราจึงไม่ควรนำสีต่างๆ มาผสมเองเพราะมีโอกาสที่สีอาจผิดเพี้ยนไปได้ง่ายและไม่ควรนำสีเก่าหรือด้อย คุณภาพมาใช้ด้วย


ที่มา ประชาชาติธุรกิจ